WHO R U

สถิติเว็บไซต์


Free Web Site Counter
DSL Services

Flag Counter

บทความที่ได้รับความนิยม

My Motto

Translate

Arsip Blog

Label

เปิดตัว Samsung Galaxy S4 (กาแล็กซี่ เอส 4) : ข้อมูล สเปค ราคา และวันวางจำหน่าย

comments


สิ้นสุดการรอคอยครับ สำหรับ Samsung Galaxy S4 (กาแล็กซี่ เอส 4) ที่ซัมซุงได้เปิดตัวไปในงาน Samsung Unpacked 2013 ณ กรุงนิวยอร์ค ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง (flagship) ของซัมซุงประจำปี 2013
โดยสเปคของ Samsung Galaxy S4 นั้น ต้องบอกว่าจัดหนักและจัดเต็ม ด้วยขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว (4.99) ใช้ซีพียูพลัง 8 คอร์ แรม 2 GB กล้องถ่ายภาพความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean รุ่นใหม่ล่าสุด
ซึ่งนอกจากในแง่ของสเปคแล้ว Galaxy S4 ยังเน้นฟีเจอร์ทางฝั่งซอฟต์แวร์อีกหลายฟีเจอร์ด้วยกัน อาทิ Smart Scroll (เลื่อนหน้าจอด้วยสายตา), Dual Camera (ถ่ายรูปพร้อมกันสองกล้อง), Drama Shot (การถ่ายภาพนิ่ง 100 ภาพภายในเวลา 4 วินาที), S Translator (แอพสำหรับแปลภาษา) และ S Voice Drive (แอพผู้ช่วยขณะกำลังขับรถ) เป็นต้น

สเปค Samsung Galaxy S4

  • หน้าจอขนาด 4.99 นิ้ว Super AMOLED HD (1920×1080)
  • ซีพียู Exynos Octa 5410 1.8GHz (8 คอร์)
  • แรม 2 GB
  • กล้องหลัง ความละเอียด 13  ล้านพิกเซล ถ่ายวีดิโอ 1080p
  • กล้องหน้า ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถ่ายวีดิโอ 1080p
  • ความจุภายใน 16 GB, 64 GB และ 32 GB
  • แบตเตอร์รี่ความจุ 2600 mAh
  • ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean

ราคา

ยังไม่มีการเปิดเผย (รออัพเดท)

วันวางจำหน่าย

สำหรับวันวางจำหน่าย Samsung Galaxy S4 อย่างเป็นทางการนั้นทางซัมซุงแจ้งว่าจะเริ่มจำหน่าย 155 ประเทศพร้อมกัน (น่าจะมีไทย) ในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้

ภาพของ Samsung Galaxy S4

วีดิโอรีวิวเบื้องต้น

ที่มา – The Verge และ Engadget

กวาดหน้าจอ Desktop ให้เกลี้ยงกันดีกว่า จะได้ชมภาพวอลเปเปอร์ได้ชัดๆ

comments

ใครที่ชอบให้หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเราโล่งๆ กันบ้างไหมเอ่ย ผมมีทิปส์มาฝาก ถ้าคุณทำตามทิปส์นี้รับรองว่าหน้าจอโล่งปราศจากไอคอนแน่นอน
แต่ว่ายังคงไว้ซึ่งความง่ายดายในการเข้าไปยังส่วนต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ของเรา ทำยังไงตามมาดูกันครับ
2012-10-12_173413
ตัวอย่างภาพหน้าจอของไทยแวร์หลังทำเสร็จเรียบร้อย

ก่อนอื่นเราต้องจัดการกับไอคอนต่างๆ บนหน้าจอก่อน
คลิกขวาที่ตรงไหนก็ได้บนหน้าจอเลือก Personalize
2012-10-12_175016
กดไปที่ Change desktop icons กดติ้กออกให้หมดครับ
2012-10-12_175229
ถ้าหน้าจอมีโฟลเดอร์ Shortcut โปรแกรมอื่นๆ อยู่ ให้ลบทิ้งให้หมดเลยครับ เดี๋ยวเราจะมาจัดการกับการเข้าใช้งานแอพฯเหล่านี้ภายหลัง ส่วนโฟลเดอร์ที่มีไฟล์ก็ต้องย้ายไปเก็บในไดร์ฟด้วยนะครับ

เมื่อทำมาถึงขั้นตอนนี้เราก็จะยังเหลือ Taskbars อยู่ ให้กดคลิกขวาที่ Taskbars เลือก Properties
2012-10-12_180259
กดเลือก Auto-hide the taskbar
2012-10-12_180434

เท่านี้หน้าจอของเราก็จะโล่งสะอาดตา แต่ว่ายังติดปัญหาการเข้าใข้งานไฟล์หรือโปรแกรมต่างๆ ที่ดูจะยากลำบาก งานนี้เราต้องใช้ตัวช่วย เป็นโปรแกรมฟรีที่มีชื่อว่า RocketDock ครับ
ดาวน์โหลดได้ที่นี่เลย
button_download
หลังจากติดตั้ง RocketDock เสร็จแล้วหน้าจอเราจะมี Dock ปรากฏบนหน้าจอแบบนี้ครับ
2012-10-12_181126
แต่แน่ล่ะ ว่าไอคอนบน DOCK จะต้องไม่เหมือนของผมแน่ๆ เราสามารถลบไอคอนที่ไม่ต้องการทิ้ง และลากไอคอนของโปรแกรมหรือ Folder ที่เราต้องการมาวางได้ง่ายๆ ด้วยการคลิกลากลงมาวางได้เลยครับ
วิธีลบก็แค่ คลิกขวาที่ไอคอนที่ต้องการแล้วกด Delete item เท่านั้นเอง
2012-10-18_124129
ถ้าไอคอนที่เราลากมาวางมันดูไม่สวยเราสามารถปรับแต่งได้ครับ ด้วยการกดคลิกขวาที่ไอคอนที่ต้องการแล้วเลือก Icon Settings...
2012-10-18_124339
เลือกไอคอนที่ต้องการได้เลยจ้า
2012-10-18_124615
โปรแกรมนี้สามารถปรับแต่งการตั้งค่าได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง, ลักษณะการแสดงผล, ความโปร่งใส, ขนาดไอคอน บลาๆ 
อย่างที่ผมใช้คือ เลือกปิดซ่อน เพื่อให้หน้าจอโล่งตลอดเวลา เวลาต้องการเรียกใช้ก็คือ ตั้งให้แสดงผลเมื่อเอาเมาส์ไปชี้บริเวณด้านล่างตรงกลางของหน้าจอ
ถ้าใครจะตั้งแบบผม ให้ตั้งได้ตามภาพด้านล่างนี้เลยครับ (ลองเลื่อนแถบเพื่อปรับตามความพอใจได้ครับ)
2012-10-18_125028
2012-10-18_125036
2012-10-18_125045
กด OK เมื่อเสร็จสิ้น เป็นอันเรียบร้อยครับ กับการกวาดหน้าจอให้เกลี้ยงเกลาสวยงาม

ภาพหน้าจอเมื่อไม่เรียกการใช้งานใดๆ
2012-10-12_173413
ภาพหน้าจอเมื่อเอาเมาส์ไปเรียก DOCK ขึ้นมา
2012-10-18_125435

ลองเอาไปทำกันดูนะครับ

ประเภทลิขสิทธิ์ Windows 8 (วินโดวส์ 8) มีกี่ประเภท OEM หรือ OpenLicense

comments

978_121030121443Sn

สำหรับ โปรแกรม Microsoft Windows เป็นหนึ่งในระบบปฏิบัติการ (Operating Systems - OS) ที่ได้รับความนิยมอีกตัวหนึ่งในปัจจุบัน ซึ่งเราอาจจะเห็นวางขายอยู่ตามตลาดทั่วไปนั้น อย่างเช่นตัว Microsoft Windows 8 หรือที่เราเรียกกันว่า Windows 8 (วินโดวส์) เราอาจจะจำแนกจำนวน อีดิชั่น (Edition) ของมันออกมาได้ ประมาณ 6 ประเภท ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

- Windows 8 (Basic Editions)

- Windows 8 Pro (Professional)

- Windows 8 Enterprise

- Windows RT

ซึ่งแน่นอน ระดับความสามารถของ Windows 8 นั้นก็จะต้องแตกต่างกันออกไปเป็นธรรมดา รวมไปถึงราคาของมันด้วย ซึ่งถ้าเรามองจากชื่อของ Edition ของมันแล้ว นั่นก็คือ Windows 8 Enterprise นั่นเอง เพราะ ดูจากชื่อ Edition มันแล้วก็พอจะเดาจากชื่อของมันออก แล้วว่า ตัวไหนดีที่สุด และในเมื่อมันดีที่สุด ราคาก็ย่อมแพงที่สุด เป็นเงาตามตัวเช่นกัน

ซึ่งข้อมูลตรงนี้ คุณผู้อ่าน หรือลูกค้าทุกท่าน คงจะหากันไม่อยากอยู่แล้ว เนื่องจาก มีบ่งบอกตามท้องตลาดอย่างมากมาย

แต่หารู้ไม่ว่า สำหรับใน Windows แต่ละ Edition นั้น ใช่ว่าจะราคาเท่ากัน เพราะเนื่องจาก มีรูปแบบลิขสิทธิ์ที่แตกต่างกันออกไป ใน 3 แบบ ด้วยกัน Thaiware.com จึงขออาสามาแสดงรายละเอียด แบบละเอียดยิบ ชนิดที่เรียกได้ว่า อ่านบทความนี้จบ แล้ว เข้าใจกระจ่างกันไปเลย !

สำหรับรูปแบบลิขสิทธิ์ (License) ของเจ้าตัว Windows นั้นมีด้วยกันอยู่ด้วยกันแบบหลักๆ 3 แบบ ดังรายละเอียต่อไปนี้ ..

1. Volume Licensing (ซื้อจำนวนมาก)

รูปแบบลิขสิทธิ์ประเภทนี้ คือลูกค้า จะต้องถูกบังคับ ซื้อเป็นจำนวนขั้นต่ำ อย่างต่ำ 5 Licenses สำหรับครั้งแรกเท่านั้น เท่ากับว่า สามารถลงได้กับ 5 เครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยกัน ซึ่งดูจากจำนวนที่จะต้องซื้อดังกล่าวแล้ว ทำให้ลักษณะหรือรูปแบบของ Open License เหมาะสำหรับ องค์กรธุรกิจขนาดเล็ก และ กลาง (SMEs - Small Medium Enterprises) หรือแม้แต่ องค์กรขนาดใหญ่ ไปโดยปริยาย เนื่องจากลูกค้า จะต้องซื้อเป็นจำนวนมาก ถ้าหากว่าคิดจะซื้อมาใช้แค่ เครื่องเดียว หรือสองเครื่อง ในบ้าน หรือที่พักอาศัย คงจะไม่คุ้มค่าเป็นแน่

โดยลิขสิทธิ์ประเภทนี้ ลูกค้าจะต้องซื้อเป็นแบบ ลักษณะของระยะเวลาที่กำหนด เช่น รูปแบบลิขสิทธิ์ แบบ 1 ปี (1-year License) เป็นต้น ซึ่งภายในระยะเวลา 1 ปี ที่อยู่ในสัญญา ลูกค้าสามารถรับสิทธิ์ในการ อัพเกรด (Upgrade) ผลิตภัณฑ์ ของ Windows ได้ รวมไปถึง สิทธิ์ในการ อัพเดท (Update) เช่นเดียวกัน แต่ถ้าหากหมดสัญญาสิทธิ์เหล่านี้ ก็จะหมดลงไปทันที

ส่วน License Key Information ที่เค้าให้มาก็จะให้มาเป็นตัวเลขชุดเดียวกัน เช่นซื้อมา 10 เครื่อง (10 Licenses) ก็จะได้ มาแค่ชุดเดียว แล้วนำ Authorization Number และ License Number เหล่านี้ ไปสร้าง (Generate) บนเว็บไซต์ของ Microsoft ที่เขากำหนด สำหรับการเข้า ไปสร้าง Product Key เพื่อนำไปใช้ ในแต่ละเครื่องทั้งหมด 10 เครื่องนั่นเอง

สิทธิ์ในการอัพเกรดในที่นี้เช่น สมมุติว่าท่านซื้อ รูปแบบลิขสิทธิ์ประเภท Open License อยู่โดยซื้อ Windows Vista Professional สมมุติว่าเกิดในระหว่าง 1 ปีที่ระยะเวลา ของสัญญายังไม่หมด ทาง Microsoft เกิดออก Windows 8 ออกมา ท่านจะได้รับสิทธิ์ในการอัพเกรดเวอร์ชั่น ทันที ซึ่งทาง Microsoft จะทำการส่งแผ่น อัพเกรด หรือที่เรียกกันว่า Disk Kit (อาจจะเป็นแค่แผ่นๆ เดีรยว แต่สามารถใช้ได้กับทุกเครื่อง ที่ซื้อ License ไว้) โดยจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ แบบนี้เป็นต้น

ซึ่งหลายท่านอาจจะได้ยินคำว่า Open License มาบ้าง ความจริงนั้น Open License เป็นแค่ส่วนหนึงของ Volume Licensing เท่านั้น เป็น Licenses ที่เหมาะกับพวก บริษัท หรือ ห้างร้าน มากกว่า ดังนั้นจริง ๆ แล้วเรื่องการซื้อแบบ Volume มีหลายแบบ มีทั้งแบบซื้อขาด (Perpetual) และ เช่าใช้ (Leasing / Subscription) แล้วแต่ความต้องการของลูกค้า
 
Volume Licensing - Open Licenses
 
มีขายแบบทั้ง License แบบปกติ ถ้าอยากได้ การ Upgrade ด้วย เราจะต้องซื้อพร้อม สิ่งที่เรียกว่า Software Assurance (SA) หรือการรับประกินสินค้า ซึ่งในการรับประกันสินค้าของซอฟต์แวร์นั้น การรับประกันสินค้าคือการได้รับสิทธิ์ Upgrade นั้นเอง (และ SA มีผลแค่ 2 ปีเท่านั้น แต่สามารถต่ออายุภายหลังได้) หรือ ซื้อทันทีหลังจากซื้อ Licenses ไปแล้วไม่เกิน 90 วัน (ถ้าจำไม่ผิด)
 
Volume Licensing - Open Values
 
เป็น Licenses แบบมี Software Assurance (SA) จะผูกมากับสัญญาเลย (บังคับ) จะทำให้ได้ราคาที่ลดมากกว่า Volume
 
Volume Licensing - Open Value Subsciptions
 
เป็นแบบเช่าใช้ เพิ่ม-ลดได้ตามขนาดของ องค์กร หรือ บริษัท ก็จะได้ Licenses + SA ตลอดระยะเวลาที่ทำ Subscription อยู่ แต่ Licenses จะไม่ใช่ของลูกค้า (ยกเลิกเมื่อไหร่ ต้องเลิกใช้เมื่อนั้น)

ข้อดี :)

- สะดวกง่าย แก่การอัพเกรดเวอร์ชั่น หรือัพเดทข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เรื่อยๆ เรียกได้ว่า Microsoft เขาออกเวอร์ชั่นไหน หรือ Patch หรือ Service Pack อะไรใหม่มา ไม่มีวันตกเทรน อย่างแน่นอน

- สามารถย้ายเครื่องลงได้ ไม่ยึดติดอยู่กับเครื่องใดเครื่องหนึ่ง แต่มีข้อแม้ว่า จะต้องอยู่ภายในจำนวน License ที่ซื้อมา เช่น ซื้อมา 5 ก็ต้องลงเครื่องแค่ 5 เท่านั้น

ข้อเสีย :(

- ราคาค่อนข้างสูง

- ต้องซื้อเป็นจำนวนมากเท่านั้น จึงไม่เหมาะสำหรับการใช้ตาม บ้านทั่วๆ ไป

- มีระยะเวลาที่กำหนดแบบชัดเจน ดังนั้นหลังจากที่หมดระยะเวลาไป สิทธิ์ต่างๆ ที่เคยได้รับจะหายไป


2. OEM License (ลิขสิทธิ์)

สำหรับ OEM License หรือรูปแบบ ลิขสิทธิ์ประเภท OEM นั้น ย่อมาจากคำว่า Original Equipment Manufacturer รูปแบบนี้ ถ้าเทียบกับ ลิขสิทธิ์ในรูปแบบอื่นๆ นั้น แบบนี้ถือว่าราคาถูกที่สุด แต่มีข้อแม้ หรือว่าเงื่อนไข อยู่พอสมควร แต่ถ้าหากว่าผู้อ่าน อ่านไปแล้ว เห็นว่า ข้อแม้แค่นี้ เรื่องจิ๊บๆ สบายๆ รับได้อยู่แล้ว ทาง Thaiware.com ก็ขอแนะนำให้ จัดไปเลย สำหรับ OEM License นี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาดูกันเลยดีกว่าว่า OEM License นั้น มีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง

1. สามารถติดตั้งได้แค่เพียง 1 เครื่อง ต่อ 1 License ที่ซื้อไป

2. เมื่อติดตั้งลงเครื่องแรกไปแล้ว จะไม่สามารถนำไปลง เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องอื่นได้เลย แม้ว่าจะไม่ใช้เครื่องแรกนั้นอีกต่อไปแล้วก็ตาม

3. ในกรณีถ้าเกิดว่า ถ้าอยากอัพเกรดหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ สิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลยคือ CPU และ ตัว เมนบอร์ด - Mainboard (Motherboard) เนื่องจากในทาง คอมพิวเตอร์ การเปลี่ยน CPU และ Mainboard ถือเป็นการ เปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ นั้นให้กลายเป็นเครื่องอื่น หรือ เครื่องใหม่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นถ้าสองสิ่งที่กล่าวมาเกิดความเสียหาย ท่านจะต้องซื้อลิขสิทธิ์ใหม่ และของเก่าก็ต้องทิ้งไป สถานเดียว

4. ถ้าหากว่ามีการ เพิ่ม / เปลี่ยน ฮาร์ดดิสก์ (Harddisk), เพิ่ม / เปลี่ยน (RAM), ติดไดร์ฟ CD-ROM เพิ่มเติม แบบนี้จะสามารถทำได้ ไม่มีปัญหา ดังนั้นถ้าสองสิ่งที่กล่าวมาเกิดความเสียหาย ท่านจะต้องซื้อลิขสิทธิ์ใหม่ และของเก่าก็ต้องทิ้งไป สถานเดียว

5. แผ่นที่ขาย ก็จะขึ้นอยู่กับจำนวน Bits ที่ลูกค้าเลือกเอาไว้ตั้งแต่แรกเลย จะไม่สามารถมาเปลี่ยนใจกันทีหลังได้ เช่น สุมมุติลูกค้าซื้อแผ่น OEM แบบ 32 Bits (X86) มา วันนึงเกิดลูกค้าเปลี่ยนใจ หรือ เข้าใจผิดว่าเครื่องตัวเอง สามารถใช้แบบ 32 Bits ได้อย่างเดียว แต่จริงๆ สามารถใช้แบบ 64 Bits ได้ด้วยเช่นกัน แล้วเกิดอยากจะเปลี่ยนใจมาใช้แบบ 64 Bits (X64) ก็จะไม่สามารถทำได้ ต้องซื้อใหม่สถานเดียว


ข้อดี :)

- ราคาถูกที่สุดในบรรดา รูปแบบลิขสิทธิ์ ที่อยู่ทั้งหมด !

- ความสามารถทุกอย่าง เหมือนกับ รูปแบบลิขสิทธิ์ ประเภท อื่นๆ


ข้อเสีย :(

- มีข้อจำกัดต่างๆ มากมาย ตามที่ได้กล่าวมาด้านบน

- มีความเสี่ยงสูงกว่าประเภทอื่นๆ เนื่องจาก CPU และ Mainboard ของท่าน จะต้องไม่เสียเลย ตลอดอายุการใช้งาน

- รูปแบบผลิตภัณฑ์ ไม่สวยงาม เทียบกับ แบบ Full Package Product (FPP)

- ไม่สามารถเปลี่ยนจำนวน Bits ได้ภายหลังได้ เช่น 32 -> 64 หรือ Bits 64 -> 32 Bits ซื้อแล้วซื้อเลย


3. FPP (Full Package Product) หรือ BOX (Windows 8 แบบกล่อง)

แบบสุดท้ายนี่ก็คือ แบบ FPP หรือตัวเต็มเรียกว่า Full Package Product แต่ว่าส่วนใหญ่ก็จะเรียกกันว่า BOX นั่นเอง ซึ่งฟังดูแล้วเข้าใจง่ายนั่นเอง

สำหรับแบบนี้ ก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก รูปแบบลักษณะของกล่อง ก็จะมีลักษณะกล่องที่สวยงาม เปิดจากด้านข้าง ตอนที่ผู้เขียนเองซื้อมา กว่าจะหาวิธีเปิดได้ก็หลาย (วิ) นาทีอยู่ หารู้ไม่ เปิดจากข้างๆ ไม่ได้เปิดจากข้างบนหรือข้างล่างแต่อย่างใด สำหรับคุณสมบัติของ รูปแบบลิขสิทธิ์ แบบ FPP นั้นก็คงจะเหมือน ประเภทอื่นๆ แต่ว่า ซื้อมาก็เท่ากับว่า 1 กล่อง ต่อ 1 License แต่แตกต่างกับ OEM คือ สามารถย้ายเครื่องไปลงที่เครื่องอื่นได้นั่นเอง

และเวลาเปิดกล่อง หรือเปิดแพคเกจ (Package) ของมันออกมาแล้ว ภายในจะมีแผ่น CD อยู่ 2 แผ่น ให้ลูกค้าเลือกลง แผ่นนึงสำหรับ คอมพิวเตอร์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบ 32 Bits (X86) และอีกแผ่น สำหรับ เครื่อง 64 Bits (X64) นั่นเองละครับ เรียกได้ว่า เลือกลงกันได้ตามใจชอบ


ข้อดี :)

- เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใช้ตามบ้าน เนื่องจาก สามารถลงที่เครื่องไหนก็ได้

- หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด

- สามารถ เปลี่ยน ระบบสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ที่สนับสนุน (จำนวน Bits) จาก 32 -> 64 หรือ 64 -> 32 ได้ เนื่องจากภายในกล่อง มีให้มา 2 แผ่น หรือสามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้จากบนเว็บไซต์


ข้อเสีย :(

- ราคาจะสูงกว่าแบบ OEM อยู่พอควร แต่ลูกค้ามั่นใจ และอุ่นใจ เพราะมีกล่องอยู่กับตัว


บทสรุป :

หลังจากที่อ่านกันมายืดยาว ผู้เขียนเองก็ไม่สามารถแนะนำได้ว่า ท่านผู้อ่านควรจะเลือกหรือใช้รูปแบบลิขสิทธิ์ (License) แบบใด ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับ จุดประสงค์การใช้งาน รวมไปถึงงบประมาณที่ทางลูกค้า (ผู้อ่าน) มีด้วยละครับ และสุดท้าย ขอบอกว่า ใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์กันดีกว่าครับ สบายใจ เรื่องความปลอดภัย มีการช่วยเหลือหรือ Technical Support ที่ดีเวลาเกิดปัญหา ^^)
 


บทความโดย : ธรรณพ สมประสงค์ (นิ้งโย๊ว)
 
Twitter : @thanop
 
สนับสนุนข้อมูลเพิ่มเติม : ยุทธนา หิรัญทราภรณ์
 
Twitter : @linexp

เหตุผลที่เราควรเจลเบรค iPhone

comments

เชื่อว่าหลายคนมีมุมมองต่อคนที่เจลเบรคในแง่ลบ เชื่อว่าคนที่เจลเบรค เพราะต้องการใช้แอพฯเถื่อน ที่จริงแล้วการเจลเบรคไม่ใช่การละเมิดลิขสิทธิ์  ไม่ใช่ทุกคนที่เจลเบรคแล้วต้องใช้แอพฯเถื่อน  เพียงแต่การจะใช้แอพฯเถื่อนได้เราต้องเจลบรคก่อนเท่านั้นเอง
คนที่ไม่เคยเจลเบรคคงจะสงสัยว่าไม่ใช้แอพฯเถื่อนแล้วจะเจลเบรคไปทำไม คำตอบง่ายๆ ครับ เพราะการเจลเบรคทำให้ iOS น่าใช้กว่าเดิมเยอะ แอพฯหลายตัวใน Cydia มันเจ๋งมากเลยล่ะ และหลายตัวที่เจ๋งจน Apple ลอกไอเดียไปใส่เวลาออก iOS เวอร์ชั่นใหม่ด้วยซ้ำ smiley
ครั้งนี้ผมจะมาแนะนำแอพฯจาก Cydia เจ๋งๆ ที่คนไม่เจลเบรคหมดสิทธิ์ใช้กัน มาดูกันครับว่ามีแอพฯ อะไรบ้าง แล้วมันจะเจ๋งสักแค่ไหน

SBSettings+Activator
iRetina   ภาพจาก http://www.applej4ck.com/2012/05/27/recommend-tweak-for-ios-5-1-1/
แอพฯตัวนี้จะรวม Shortcut ที่่เราจำเป็นต้องใช้งานบ่อยๆ ไว้ในที่เดียว เมื่อเราติดตั้ง SBSettings มันจะติดตั้ง Activator มาให้ด้วยอัตโนมัติ แอพฯ Activator ใช้สำหรับตั้งค่าให้ iPhone สามารถควบคุมส่วนต่างๆ ได้โดยอิสระ เช่น การแตะนาฬิกาบนหน้าจอเพื่อปิดหน้าจอ หรือการลากนิ้วผ่านนาฬิกาเพื่อทำการบันทึกภาพหน้าจอ ถือว่าเป็นแอพฯที่มีประโยชน์มาก มันเจ๋งกว่า Assistive Touch  ของ Apple หลายล้านเท่าเลยล่ะ
Zephyr
ภาพจาก http://en.wikinoticia.com/Technology/Apple/107749-zephyr-advanced-multitasking-for-iphone-ipod
แอพฯ นี้ จะทำให้คุณลืมการใช้งาน Multitasking แบบเดิมๆ ไปเลย เอานิ้วปาดจอจากล่างขึ้นบนเพื่อปิดแอพฯ หรือระหว่างอยู่ในแอพฯสามารถลากนิ้วปาดจอจากซ้ายไปขวา ขวาไปซ้ายเพื่อสลับแอพฯที่กำลังใช้งานอยู่ แอพฯนี้จะทำให้คุณลืมไปเลยว่ากดปุ่ม Home ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
SwipeShiftCaret
SwipeShiftCaret-Screenshot
ทำให้การแก้คำผิดเป็นเรื่องง่าย อย่างที่รู้กันว่าการจิ้มเคอร์เซอร์ไปยังบริเวณที่ต้องการแก้ไขตัวอักษรนั้นยากเหลือเกินแต่ด้วย แอพฯนี้ คุณเอานิ้วปาดเลื่อนเคอร์เซอร์ได้เลย
WinterBoard + DreamBoard
Winterboard_2  IMG_0001
com  DreamBoard-LiveOS-HD
ฝั่งแอนดรอยส์มักจะข่มว่า สามารถเปลี่ยนแปลงหน้าตาโทรศัท์ได้ตามต้องการ ไม่เหมือน iOS ที่ไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้ แต่ด้วยทั้งสองแอพฯนี้ คุณจะเปลี่ยนหน้าตาได้มากมายหลายแบบเลยล่ะ รับรองว่าสวยไม่แพ้ฝั่งแอนดรอยส์แน่ๆ
Font Switcher
01  04

ภาพจาก iappdev.com
เบื่อฟอนท์หน้าตาเดิมๆ ของ iPhone ก้อไม่ใช่ปัญหาเปลี่ยนได้เลยง่ายๆ สามารถนำฟอนท์มาใส่เองได้ด้วย อยากได้ฟอนท์ไหนจัดเลย
AirBlue
ภาพจาก http://www.cultofmac.com/146037/how-to-easily-share-files-over-bluetooth-with-your-ios-5-device-jailbreak/
อยากส่งรูป ส่งเพลงให้เพื่อนผ่าน Bluetooth แต่ Apple ไม่ให้ส่ง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของคนที่เจลเบรคแล้ว ส่งไฟล์หากันได้ไม่มีปัญหา
Barrel
ภาพจาก http://iphoneclub.hu/cikk/ios-5-jailbreak-utani-tweak-kezdocsomag-2-resz

เบื่อการเลื่อนหน้าจอแบบเดิมๆ ต้องนี่ตั้งอนิเมชั่นการเปลี่ยนหน้าได้มากมายหลายแบบ

ที่จริงยังมีอีกหลายแอพฯที่น่าใช้งาน แต่มันมีเยอะมากครับ ซึ่งแอพฯเหล่านี้ จะทำให้การใช้งาน iOS ของเราง่ายขึ้นและน่าใช้กว่าเดิมมากเลยล่ะครับ นี่หละครับเหตุผลที่เราควรเจลเบรค  smiley
หมายเหตุ การเจลเบรคทำให้หมดประกัน (แต่ Restore เพื่อ Unbreak ได้) และหากคิดจะเจลเบรคควรศึกษาข้อมูลและวิธีการทำอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนนะครับ

วิธี Hack เข้าใช้บัญชีผู้ใช้ Windows 8 ที่ติด Password

comments

ทิปส์นี้จะออกสายมืดหน่อยนะครับ เราสามารถนำไปใช้เข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคนอื่นได้ หรือใช้ Reset Password
สำหรับคนที่ใช้ Windows 8 อยู่คงจะรู้ว่า ทุกครั้งที่เราเข้าใช้ เราจำเป็นต้อง Log in ก่อนเข้าใช้งานทุกครั้ง แล้วถ้าเกิดเราลืม Password ล่ะ หรืออยากแอบเข้าไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคนอื่นที่ติด Password อยู่ จะทำยังไงดี
เราสามารถใช้ช่องโหว่ของ Windows 8 เข้าใช้งานได้ง่ายๆ เลยล่ะครับ ไม่เกิน 10 นาทีเท่านั้น
Untitled-1

เตือน
  • การละเมิดสิทธิส่วนบุคคลผู้อื่น เป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย
  • ควรชำนาญในการใช้งานคอมพิวเตอร์มากพอควร มือใหม่ควรศึกษาให้ดีก่อนลงมือ

สิ่งที่เราต้องมีก็คืออย่างใดอย่างหนึ่งด้านล่างนี้ครับ
  • แผ่น System Recovery Disk  สำหรับ Windows 8
  • USB thumb drive System Recovery 
  • แผ่น Windows 8 Installation DVD

วิธีสร้าง System Recovery Disk สำหรับคนที่ไม่มีแผ่น Windows 8 Installation DVD
ให้เข้าไปที่ Control Panel แล้วเลือก Recovery กด Create a recovery drive
2012-12-14_155000
เลือกว่าจะสร้างเป็น USB flash drive หรือแผ่น DVD จากนั้นทำไปขั้นตอนจนเสร็จครับ
2012-12-14_155031

วิธีทะลวง Password Windows 8
0. ให้ Boot เครื่องคอมพิวเตอร์ของเครื่องที่เราจะแฮค ด้วยแผ่น Recovery Disk หรือแผ่น Windows 8 Installation DVD จะพบตัวเลือกแบบนี้ครับ
เลือก Troubleshoot >> Advanced options >> Command Prompt
Untitled-1
003ik

TIPS
แต่ละคำสั่งมีการเว้นช่องว่าง (Spacebar) แตกต่างกัน บางคำสั่งเคาะวรรคแค่ครั้งเดียว บางคำสั่งเคาะวรรค 2 ครั้ง กรุณาสังเกตให้ดี

หน้าต่าง Command Prompt จะถูกเปิดขึ้นมา
1. พิมพ์คำสั่ง diskpart แล้วกด Enter
004apt
2. พิมพ์คำสั่ง list vol แล้วกด Enter เพื่อดูว่า Windows ถูกติดตั้งไว้ที่ไหน อย่างของผมเป็นไดร์ฟ C
005clw
3. พิมพ์คำสั่ง Exit แล้วกด Enter
006vcu
4. พิมพ์ไดร์ฟที่ติดตั้ง Windows อยู่ อย่างตะกี้ของผมเป็นไดร์ฟ C ก็ใช้คำสั่ง C:
007lwc
5. พิมพ์คำสั่ง cd windows แล้วกด Enter
008ymh
6. พิมพ์คำสั่ง cd system32 แล้วกด Enter
009wrp
7. พิมพ์คำสั่ง copy  cmd.exe cmd.exe.original แล้วกด Enter
010kq
8. พิมพ์คำสั่ง copy Utilman.exe Utilman.exe.original แล้วกด Enter
011rns
9. พิมพ์คำสั่ง del Utilman.exe แล้วกด Enter
012gqj
10. พิมพ์คำสั่ง ren cmd.exe Utilman.exe แล้วกด Enter
013ysap
11. พิมพ์คำสั่ง Shutdown  -r  -t  00 แล้วกด Enter จบขั้นตอนนี้คอมพิวเตอร์จะทำการ Restart
014awz
12. กดไปที่ไอคอน Ease of Access Center
015who
13. หน้าต่างของ command prompt จะถูกเปิดขึ้นมา
016fya
14. พิมพ์คำสั่ง net user แล้วกด Enter
017jd
15. พิมพ์คำสั่ง net user  xxxxxx * แล้วกด Enter หมายเหตุ xxxxxx คือชื่อของบัญชีผู้ใช้ที่ปรากฏอยู่ อย่างของผมก็จะต้องเป็น net user  Reboot.Pro *
018whu
16. มันจะให้กรอกรหัสผ่านอันใหม่เข้าไป ขั้นตอนนี้ต้องระมัดระวังอย่างมากนะครับ เพราะเราจะไม่เห็นเคอร์เซอร์และรหัสที่เราพิมพ์
019of
17. กรอกรหัสที่เราเพิ่งตั้งใหม่อีกครั้งหนึ่งครับ เพื่อทำการยืนยัน
020rtt
18. พิมพ์คำสั่ง exit แล้วกด Enter
021eq
เท่านี้เราก็สามารถเข้าใช้ได้โดยใช้ Password ที่เราเพิ่งตั้งเมื่อสักครู่นี้ได้แล้วล่ะ smiley

แต่อย่างเพิ่งรีบ
เราได้ทำการแก้ไขค่าของ Utilman.exe ไปแล้ว เมื่อเราเข้าได้แล้วเราควรทำการแก้ไขกลับไปเป็นเหมือนเดิมด้วยครับ
ย้อนกลับไปที่ ข้อ 0. เพื่อเข้าไปที่ command prompt อีกครั้งครับ

1. พิมพ์คำสั่ง c: แล้วกด Enter
2. พิมพ์คำสั่ง cd windows แล้วกด Enter
3. พิมพ์คำสั่ง cd system32 แล้วกด Enter
4. พิมพ์คำสั่ง del  Utilman.exe แล้วกด Enter
5. พิมพ์คำสั่ง ren  Utilman.exe.original Utilman.exe แล้วกด Enter
6. พิมพ์คำสั่ง ren cmd.exe.original cmd.exe แล้วกด Enter
7. พิมพ์คำสั่ง shutdown  -r  -t  00 แล้วกด Enter จากนั้นคอมพิวเตอร์ของเราจะ Restart
เท่านี้คอมพิวเตอร์ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วครับ
023pvf


ใครที่ใช้แผ่น Windows 8 Installation DVD ในการทำ ให้กดปุ่ม Shift+F10 แล้วเริ่มทำตั้งแต่ข้อ 1. ได้เลย
024qtf

บทความนี้แปลและดัดแปลงจากบทความของคุณ Jamal H. Naji ต้นฉบับอยู่ที่ http://reboot.pro/topic/17872-reset-a-windows-8-password-without-using-any-third-party-software/

ข่าวสารอัพเดท

เด็กวิทย์คอม ยินดีต้อนรับเข้าสู่

108-load สังคมแห่งการแบ่งปัน


===============
สถานะ : กำลังอัพเดทเว็ปไซต์

FACEBOOK FANPAGE

HOT-NEWS

CHAT

บทความล่าสุด